
ในยุคที่ร้านค้าต้องการความแม่นยำและความรวดเร็วในการให้บริการ โปรแกรมขายหน้าร้าน จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะโซลูชันจาก Microsoft ที่ตอบโจทย์ทั้งงานขาย การจัดการสต๊อก ไปจนถึงระบบรายงาน ช่วยให้เจ้าของร้านตัดสินใจได้แม่นยำกว่าเดิม ลดความผิดพลาด เพิ่มความคล่องตัวให้ทีมงาน และพัฒนาร้านค้าให้พร้อมแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ทำความเข้าใจ โปรแกรมขายหน้าร้านคืออะไร
โปรแกรมขายหน้าร้าน หรือ POS คือระบบที่ใช้จัดการธุรกรรมการขายสินค้าและบริการที่หน้าร้านจริง ออนไลน์ หรือผ่านช่องทางดิจิทัลอื่น ๆ โดยครอบคลุมการทำงานตั้งแต่การคิดเงิน การจัดการสต๊อกสินค้า ข้อมูลลูกค้า การออกรายงาน และการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหลายช่องทางการขาย
ความสำคัญของโปรแกรมขายหน้าร้านแบบ Omni-channel
โปรแกรมขายของหน้าร้าน เป็นศูนย์กลางของ Digital Transformation ธุรกิจ ที่ช่วยให้เจ้าของสามารถปรับกลยุทธ์การขายให้เหมาะสม
- ทำธุรกรรมเร็วขึ้นและราบรื่น ลดเวลาการคิดเงินและประมวลผลคำสั่งซื้อ ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องรอคิวนาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งรีบ
- ยกระดับการบริการ แสดงข้อมูลสินค้า ราคา โปรโมชั่น สต๊อก และประวัติการซื้อของลูกค้าที่มีอยู่ทันที ทำให้พนักงานตอบคำถามของลูกค้า และแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้
- การจัดการสต๊อกสินค้าที่ง่ายดาย ด้วยระบบ Inventory Management ที่มาพร้อมกับโปรแกรมขายหน้าร้าน ช่วยติดตามจำนวนสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ และแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด
- เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสาขา ช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพรวมของสต๊อกสินค้า ยอดขาย และข้อมูลลูกค้าจากทุกสาขาในที่เดียว และสามารถโอนสินค้าระหว่างสาขาได้ง่าย
- ติดตามการทำงานของพนักงาน ติดตามประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานแต่ละคน ผู้บริหารสามารถประเมินผลงาน ระบุปัญหา และหาวิธีพัฒนาทีมงานได้
- ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติ ทำให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ
- สร้างรายงานที่แม่นยำ ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นภาพธุรกิจได้อย่างชัดเจนและสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น
- เข้าใจ ROI ของธุรกิจได้ดีขึ้น วิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละด้านได้ชัดเจน ช่วยให้การวางแผนการเงินและกลยุทธ์ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วางรากฐานธุรกิจให้มั่นคงและพร้อมต่อยอดในอนาคต ติดต่อเรา
ประเภทของช่องทางการขายที่โปรแกรมขายหน้าร้านควรรองรับ
เพราะปัจจุบันการซื้อสินค้าไม่ได้มาจากช่องทางเดียวอีกต่อไป ธุรกิจหลายแห่งจึงต้องมีช่องทางการขายหลายส่วน และติดตั้งโปรแกรมขายหน้าร้านที่รองรับการขายสินค้าทุกช่องทาง นี่คือ ประเภทของช่องทางการขายที่โปรแกรมขายหน้าร้านควรรองรับ
- ช่องทางแบบดั้งเดิม (Traditional Channels) หน้าร้านจริงที่ลูกค้าสามารถเดินเข้ามาดูสินค้า หรือสัมผัสบริการได้ และชำระเงินที่เคาน์เตอร์ เป็นช่องทางที่ยังมีความสำคัญและเป็นที่ต้องการของลูกค้าหลายกลุ่ม โดยแบ่งเป็น
- Traditional POS
- Mobile POS (mPOS)
- Restaurant POS
- Service-based business POS
- ช่องทางดิจิทัล (Digital Channels) ช่องทางที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากทุกที่ผ่านสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ เข้าถึงลูกค้าได้กว้าง และผู้ขายยังสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้อย่างละเอียด แบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ ได้แก่
- E-commerce
- Social Commerce เช่น Facebook Shop, Instagram Shopping และ LINE Shopping
- Marketplace เช่น Lazada, Shopee, TikTok Shop และ Amazon
- ช่องทางแบบ Multi-channel เป็นการขายสินค้าผ่านหลายช่องทางพร้อมกัน แต่ละช่องทางทำงานแยกจากกันอย่างอิสระ ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางที่ต้องการได้ แต่ข้อมูลระหว่างช่องทางอาจไม่เชื่อมโยงกัน เช่น มีร้านค้าหน้าร้านและเว็บไซต์ขายของออนไลน์แยกกัน มีสต๊อกและระบบคิดเงินคนละระบบ
- ช่องทางแบบ Omni-channel เป็นระดับที่สูงที่สุดของการขายหลายช่องทาง ที่ทุกช่องทางเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ลูกค้าสามารถเริ่มต้นการซื้อที่ช่องทางหนึ่งและทำต่อที่อีกช่องทางได้อย่างราบรื่น เช่น ดูสินค้าออนไลน์แล้วมารับที่หน้าร้าน หรือซื้อที่หน้าร้านแล้วให้จัดส่งถึงบ้าน ระบบจัดการสต๊อกสินค้า ข้อมูลลูกค้า และโปรโมชั่นเป็นแบบรวมศูนย์เดียวกัน
7 ฟีเจอร์หลักที่โปรแกรมขายหน้าร้านจาก Microsoft ที่ธุรกิจควรมี
Microsoft ได้พัฒนาโซลูชัน Dynamics 365 Business Central และ LS Retail ซึ่งครอบคลุมทุกความต้องการของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ และนี่คือฟีเจอร์สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของเติบโตในตลาดยุคใหม่ได้
1. ระบบการขายและคิดเงินที่รวดเร็วแม่นยำทุกช่องทาง
ระบบการขายและคิดเงินในโปรแกรมขายหน้าร้าน ควรสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และรองรับทุกรูปแบบการชำระเงินที่ลูกค้าต้องการ
- ระบบจาก Microsoft ออกแบบมาให้ประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการสแกนบาร์โค้ด การค้นหาสินค้า หรือการคำนวณราคา
- รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเงินสด บัตรเครดิต/เดบิต การชำระผ่าน QR Code และ Mobile Banking รวมถึงสามารถผสมผสานวิธีการชำระเงินหลายแบบในคำสั่งซื้อเดียวได้
- คำนวณส่วนลด โปรโมชั่น และภาษีแบบอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำและทันที ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการคำนวณด้วยมือและประหยัดเวลาได้ไม่น้อย
2. การจัดการสินค้าและสต๊อกแบบ Unified Inventory
การจัดการสินค้าและสต๊อกแบบ Unified Inventory ช่วยตรวจสอบจำนวนสินค้าแบบเรียลไทม์ และสามารถวางแผนการสั่งซื้อหรือการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบติดตามสต๊อกสินค้าและปรับยอดสต๊อกทันทีโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะการขายหน้าร้าน ออนไลน์ หรือผ่าน Marketplace
- จัดการคลังสินค้าด้วยระบบ WMS ฟีเจอร์ใน Dynamics 365 Business Central ที่โปรแกรม LS Retail เชื่อมต่อได้ เพื่อติดตามตำแหน่งสินค้า จัดการการรับสินค้าเข้า-ออก และวางแผนการจัดวางสินค้าในคลัง
- การแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมดโดยอัตโนมัติ และสามารถตั้งค่า Reorder Point สำหรับแต่ละสินค้าได้ ช่วยให้สามารถสั่งซื้อสินค้าทันเวลา
- การจัดการหลายสาขา รองรับการใช้งาน Barcode และ SKU (Stock Keeping Unit) ช่วยให้การสแกนสินค้า การติดตามสินค้า และการตรวจนับสต๊อกทำได้รวดเร็วและแม่นยำ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโซลูชันด้านระบบ IT ที่นี่
3. ระบบรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลขายแบบ 360 องศา
ระบบรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลขายแบบ 360 องศา จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของธุรกิจ เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า และคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้ เพราะข้อมูลเหล่านี้คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณแข่งขันชนะคู่แข่งได้อย่างมั่นใจ
- Dashboard แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์จากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นยอดขายวันนี้ สินค้าขายดี หรือประสิทธิภาพของแต่ละสาขา
- รายงานยอดขายรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน แยกตามช่องทาง ช่วยให้คุณเห็นแนวโน้ม เปรียบเทียบ และวางแผนการขายได้อย่างเหมาะสมขึ้น
- Data Analytics ข้อมูลสินค้าขายดีและสินค้าที่ขายช้าในแต่ละช่องทางด้วยเครื่องมืออย่าง Power BI เพื่อยกระดับการปรับกลยุทธ์ การจัดวางสินค้า และการบริหารสต๊อก
- วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าข้ามช่องทาง (Cross-channel Analytics) ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมการซื้อลูกค้า และแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างตรงจุด
- วิเคราะห์ประสิทธิภาพของแต่ละช่องทางการขาย พร้อมคำนวณ ROI ของแต่ละช่องทาง เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนการดำเนินงาน และหาจุดที่ควรปรับปรุง
4. การจัดการข้อมูลลูกค้าแบบ Unified Customer Profile
การจัดการข้อมูลลูกค้าแบบ Unified Customer Profile ในโปรแกรมขายของหน้าร้านช่วยให้คุณเห็นข้อมูลลูกค้าแต่ละคนได้อย่างครบถ้วน และยกระดับบริการที่เป็นส่วนตัวและสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้น
- ฐานข้อมูลลูกค้า (CRM – Customer Relationship Management) แบบบูรณาการ รวบรวมข้อมูลและประวัติการซื้อของลูกค้าจากทุกช่องทางไว้ในที่เดียว
- ระบบสมาชิกและสะสมแต้ม (Loyalty Program) สะสมแต้มจากการซื้อทุกช่องทางในบัญชีเดียวกัน ทั้งหน้าร้าน ออนไลน์ หรือผ่าน Marketplace
- การส่ง SMS/Email/LINE Marketing แบบ Personalized ช่วยเพิ่มอัตราการตอบรับจากลูกค้า แทนการส่งข้อความเดียวกันให้ลูกค้าทุกคน
- Customer Journey Tracking ข้ามช่องทาง หรือข้อมูลการเดินทางผ่านช่องทางต่าง ๆ ของลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อปรับปรุง Touchpoint ต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
5. การเชื่อมโยงข้อมูลแบบ Omni-channel Integration
การมีระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลแบบ Omni-channel Integration ทุกช่องทางจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่
- เชื่อมต่อระหว่างหน้าร้านและออนไลน์อย่างไร้รอยต่อด้วย Cloud Server ที่มี Data Center กระจายอยู่หลายพื้นที่
- รองรับ E-commerce และ Social Commerce ทำให้คุณสามารถขายสินค้าผ่านหลายช่องทางออนไลน์พร้อมกัน โดยเชื่อมต่อข้อมูลสต๊อกสินค้า ราคา และโปรโมชั่นให้อัตโนมัติ
- เชื่อมต่อกับ Marketplace ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee หรือ TikTok Shop ผ่านตัวเชื่อม (Connector) เพื่อการบริหารจัดการการขายหลาย Marketplace จากที่เดียว
- ผสานความสามารถของ Dynamics 365 Business Central ร่วมกับ LS Retail ตอบโจทย์การทำธุรกิจ ทั้งโมดูลพื้นฐานของร้านค้าทั่วไปและฟีเจอร์เฉพาะทางสำหรับร้านค้าปลีก
6. ความปลอดภัยของข้อมูลและการสำรองข้อมูล
ความปลอดภัยของข้อมูลและการสำรองข้อมูล คือคุณสมบัติสำคัญของโปรแกรมขายของหน้าร้าน เพราะอาจทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักหรือเสียหายอย่างหนัก
- ระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล (Cyber Security) ตั้งแต่การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจจับและป้องกันการโจมตี ไปจนถึงการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
- การสำรองข้อมูลอัตโนมัติบน Cloud Server ที่องค์กรสามารถกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด
- Role-based Access Control หรือระบบกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงของพนักงานแต่ละคน ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลสำคัญโดยไม่ได้รับอนุญาต
- Data Encryption และ Compliance (PDPA) สนับสนุนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยข้อมูลจะถูกเข้ารหัสทั้งตอนส่งผ่านเครือข่ายและตอนจัดเก็บ เพื่อการจัดการที่ง่ายขึ้น
- ความปลอดภัยในการเชื่อมต่อกับระบบภายนอก ตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด และ Monitor การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์

ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วย Total Business Solutions ของเรา คลิก
7. ระบบที่ยืดหยุ่นในการปรับแต่งและขยายตัว
เพราะทุกธุรกิจมีความต้องการที่แตกต่างกัน โปรแกรมขายหน้าร้านที่ไม่สามารถปรับแต่งจึงจะกลายเป็นอุปสรรคเมื่อธุรกิจเติบโตมากกว่า ระบบที่ยืดหยุ่น ปรับแต่งได้ตามความต้องการ และขยายตัวไปพร้อมกับธุรกิจ
- ความสามารถในการปรับแต่งให้เข้ากับประเภทและความต้องการเฉพาะของธุรกิจ ไม่ว่าเป็นร้านค้าปลีก ร้านอาหาร คาเฟ่ และอื่น ๆ
- การเชื่อมต่อกับระบบบัญชีและ ERP ทำให้ข้อมูลจาก POS ไหลเข้าสู่ระบบบัญชีอัตโนมัติ ช่วยให้การทำบัญชีและการตัดบัญชีประจำงวดเป็นเรื่องง่ายและแม่นยำ
- ความสามารถในการรองรับการขยายธุรกิจ (Scalability) ได้อย่างไม่จำกัด ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเปลี่ยนระบบใหม่เมื่อธุรกิจเติบโตมากขึ้น
- API Integration กับระบบอื่น ๆ ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับบริการหรือระบบที่คุณใช้อยู่แล้วได้ และทำให้การบูรณาการข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
Bhatara Progress ให้คำปรึกษาและติดตั้งโปรแกรมขายหน้าร้านจาก Microsoft
โปรแกรมขายหน้าร้านแบบ Omni-channel ที่ผสานเทคโนโลยีใหม่ คือระบบที่ช่วยเชื่อมโยงทุกช่องทางการขายเข้าด้วยกัน ช่วยให้ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างราบรื่นไม่ว่าจะผ่านช่องทางไหน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดข้อผิดพลาด และทำให้คุณเข้าใจธุรกิจของตัวเองมากขึ้นผ่านข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยBhatara Progress เราเป็น Microsoft Partner Thailand ที่เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและติดตั้งโปรแกรมขายหน้าร้าน LS Retail จาก Microsoft เรามีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับธุรกิจค้าปลีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กไปจนถึงเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่ เราเข้าใจความท้าทายของแต่ละธุรกิจและพร้อมออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจ

คำถามที่พบบ่อย
โปรแกรมขายหน้าร้านฟรีกับแบบเสียเงินต่างกันอย่างไร?
โปรแกรมขายหน้าร้านแบบฟรีมักมีฟีเจอร์ระดับพื้นฐานเท่านั้น และมีข้อจำกัดด้านจำนวนสินค้า การรายงาน หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม ขณะที่โปรแกรมแบบเสียเงินมักให้ฟังก์ชันที่ครบครันกว่า รวมถึงการรับประกันการอัปเดตและบริการหลังการขาย
โปรแกรมขายหน้าร้านต้องใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลาหรือไม่?
โปรแกรมขายหน้าร้านไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับประเภทของโปรแกรม ซึ่งระบบ Cloud-based มีหลายส่วนที่สามารถทำงานแบบออฟไลน์ในบางส่วนได้ ส่วนโปรแกรมแบบติดตั้งในเครื่อง (On-premise) จะทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต แต่มีข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อข้อมูลข้ามสาขาหรือการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
ใช้เวลานานแค่ไหนในการติดตั้งโปรแกรมขายหน้าร้าน?
ระยะเวลาในการติดตั้งโปรแกรมขายหน้าร้านขึ้นอยู่กับประเภทระบบและความซับซ้อนของธุรกิจ โดยทั่วไปโปรแกรมแบบ Cloud-based สามารถตั้งค่าและเริ่มใช้งานได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ส่วนระบบที่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ POS หรือมีการตั้งค่าขั้นสูง อาจใช้เวลาตั้งแต่ 1–3 วัน
โปรแกรมขายหน้าร้านสามารถใช้งานบนมือถือได้หรือไม่?
โปรแกรมขายหน้าร้านสมัยใหม่หลายตัวรองรับการใช้งานบนมือถือหรือแท็บเล็ต เพื่อความสะดวกในการขายและตรวจสอบข้อมูล โดยมีทั้งแอปพลิเคชันและเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งสามารถดูยอดขาย เช็กสต๊อก หรือจัดการร้านค้าได้จากทุกที่
ราคาโปรแกรมขายหน้าร้านโดยเฉลี่ยเท่าไหร่?
ราคาโปรแกรมขายหน้าร้านแตกต่างกันตามฟีเจอร์และรูปแบบการให้บริการ โดยระบบ Cloud-based มักคิดเป็นรายเดือน เริ่มตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อเดือน ส่วนโปรแกรมแบบซื้อขาดหรือระบบที่รวมอุปกรณ์ POS อาจมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท
ติดต่อเราได้ที่ Contact Us
หรือสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง
โทร: 02 732 2090
Email: marketing@bhatarapro.com
LINE: @bhataraprogress
แหล่งอ้างอิง
Jeng Nguyen. (31 ธันวาคม 2567). 9 key advantages of a POS system for retailers and shoppers in 2025. Magestore. https://www.magestore.com/blog/pos-advantages/
Microsoft. (ม.ป.ป.). Dynamics 365 Commerce. https://www.microsoft.com/en-us/dynamics-365/products/commerce
Microsoft. (ม.ป.ป.). Dynamics 365 Commerce architecture overview. https://learn.microsoft.com/en-us/dynamics365/commerce/dev-itpro/commerce-architecture