
ในวันที่ธุรกิจล้วนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการทำงาน ปัญหาจากระบบซอฟต์แวร์ล่ม อินเทอร์เน็ตช้า หรือข้อมูลสูญหายไป จึงกลายเป็นฝันร้ายที่ทุกองค์กรไม่อยากเผชิญ เพราะหาก IT Infrastructure ขององค์กรไม่แข็งแรงเพียงพอ ธุรกิจก็อาจต้องเผชิญปัญหาซ้ำซาก แม้จะทุ่มงบประมาณจำนวนมากในการปรับปรุงระบบก็ตาม
คุณจึงควรทำความเข้าใจกันว่า IT Infrastructure คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับธุรกิจ และโครงสร้างที่ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง
เข้าใจ IT Infrastructure ความหมายและความสำคัญ
IT Infrastructure หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ คือชุดฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เครือข่าย และบริการต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อรองรับการดำเนินงานด้าน IT ขององค์กร ตั้งแต่การจัดการข้อมูล การสื่อสารภายในองค์กร การให้บริการลูกค้า ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
ประเภทของ IT Infrastructure
- Traditional IT Infrastructure การติดตั้งและจัดการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดภายในองค์กรด้วยตนเอง เหมาะกับองค์กรที่ต้องการควบคุมและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยตนเอง หรือมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด
- Cloud IT Infrastructure การใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ โดยไม่ต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์หรือพื้นที่เก็บอุปกรณ์ภายในองค์กร
- Hybrid IT Infrastructure ผสมผสานระหว่าง Traditional Infrastructure และ Cloud Infrastructure เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์จากทั้งสองแบบ
ประโยชน์ของ IT Infrastructure ในองค์กร
- รองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลธุรกรรม การเข้าถึงข้อมูล หรือการให้บริการ พร้อมช่วยลดการหยุดดำเนินการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และความเชื่อมั่นของลูกค้า
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ประโยชน์ได้เร็วกว่าคู่แข่ง
- รักษาความปลอดภัยของข้อมูล ครอบคลุมทั้งการเข้ารหัสข้อมูล และระบบสำรองข้อมูล เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งนำไปสู่การสูญหายของข้อมูล และอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อองค์กร
- ลดต้นทุนในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลาทำงานซ้ำซ้อน การลดความผิดพลาดจากการทำงานด้วยมือ การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร และการซ่อมบำรุงระบบ
- รองรับการเติบโตของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนพนักงาน การขยายสาขา หรือการเพิ่มปริมาณธุรกรรม ช่วยให้องค์กรไม่ต้องเปลี่ยนหรือปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมดเมื่อธุรกิจเติบโต

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโซลูชันด้านระบบ IT ที่นี่
7 องค์ประกอบสำคัญของ IT Infrastructure
IT Infrastructure ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบสำคัญที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้ระบบไอทีขององค์กรทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
1. Hardware (ฮาร์ดแวร์)
Hardware (ฮาร์ดแวร์) ส่วนประกอบของ IT Infrastructure ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่รองรับการทำงานของซอฟต์แวร์และระบบต่าง ๆ แบ่งเป็น
- เซิร์ฟเวอร์ (Server) คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล และให้บริการแก่เครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ปลายทาง (Endpoints) อุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเข้าถึงระบบไอที เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบไอที
- อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage Devices) ทั้ง Hard Disk Drive (HDD), Solid State Drive (SSD), Network Attached Storage (NAS) หรือ Storage Area Network (SAN)
2. Software (ซอฟต์แวร์)
Software (ซอฟต์แวร์) เป็นองค์ประกอบสำคัญของ IT Infrastructure ที่ทำให้ฮาร์ดแวร์สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ ครอบคลุมตั้งแต่ระบบปฏิบัติการพื้นฐานไปจนถึงแอปพลิเคชันธุรกิจที่ซับซ้อน ประกอบด้วย
- ระบบปฏิบัติการ (Operating Systems) ซอฟต์แวร์พื้นฐานที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์และเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ได้แก่ Windows, Linux, macOS และอื่น ๆ
- แอปพลิเคชันธุรกิจ (Business Applications) โปรแกรมต่าง ๆ ที่ใช้ในการดำเนินงานขององค์กร เช่น ERP, CRM หรือ WMS
- ซอฟต์แวร์จัดการและควบคุม (Management Software) ช่วยให้ทีม IT สามารถติดตาม ตรวจสอบ บริหารจัดการ และควบคุมการทำงานของระบบไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. Network (เครือข่าย)
Network (เครือข่าย) เป็นองค์ประกอบใน IT Infrastructure ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ ในองค์กรให้สามารถสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ได้แก่
- อุปกรณ์เครือข่าย คุณภาพดีและมีความเร็วเพียงพอ ประกอบด้วย Router, Switch, Access Point และสายเคเบิลที่ใช้ในการเชื่อมต่อ เพื่อรองรับการใช้งานที่เสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่เสถียรและมีความเร็วสูง เพื่อป้องกันความเสียหายเมื่ออินเทอร์เน็ตมีปัญหาด้านการเชื่อมต่อ
- LAN, WAN, และ Wireless Network ที่เหมาะสมซึ่งช่วยยกระดับการสื่อสารภายในองค์กรให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
4. Data Center (ศูนย์ข้อมูล)
Data Center (ศูนย์ข้อมูล) คือพื้นที่สำหรับติดตั้งและดูแลอุปกรณ์ไอทีที่สำคัญขององค์กร ซึ่งช่วยให้ระบบเสถียรและปลอดภัย ดังนี้
- พื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ ที่ใช้ในปัจจุบันและรองรับการขยายในอนาคต พร้อมทั้งการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ จัดการสายเคเบิลที่ดี และสะดวกต่อการเข้าถึงเมื่อต้องการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษา
- ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่และระบายความร้อนที่เกิดจากอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยืดอายุอุปกรณ์และลดความเสียหายจากความร้อนสูง
- ระบบไฟฟ้าสำรอง (UPS) อุปกรณ์สำคัญที่ป้องกันข้อมูลสูญหายและความเสียหายจากไฟฟ้าดับกะทันหัน ด้วยการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไอทีต่อเนื่อง
- มาตรฐานความปลอดภัย เช่น ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control) กล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบเตือนภัย และระบบดับเพลิง

ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วย Total Business Solutions ของเรา คลิก
5. Cyber Security (ระบบรักษาความปลอดภัย)
Cyber Security (ระบบรักษาความปลอดภัย) องค์ประกอบที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น เพราะช่วยปกป้องข้อมูลและทรัพย์สินขององค์กรจากความเสี่ยงต่าง ๆ และนี่คือระบบรักษาความปลอดภัยที่ควรมี
- Firewall และ Antivirus กำแพงป้องกันระหว่างเครือข่ายภายในองค์กรกับอินเทอร์เน็ต ทำหน้าที่กรองข้อมูล ตรวจสอบไวรัส และปิดกั้นการเข้าถึงที่ไม่น่าเชื่อถือ
- การควบคุมการเข้าถึง (Access Control) ช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลและระบบที่ไม่ปลอดภัย เช่น ระบบยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน กำหนดสิทธิ์การเข้าถึง และบันทึกการเข้าใช้งาน
- การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญ โดยควรใช้กับข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ และข้อมูลที่กำลังส่งผ่าน
- การสำรองข้อมูล (Backup) และ Disaster Recovery ป้องกันการสูญหายของข้อมูลจากความผิดพลาด การโจมตีทางไซเบอร์ หรือภัยพิบัติ และสามารถดำเนินการต่อได้อย่างรวดเร็ว
6. Facilities/Physical Plant (สิ่งอำนวยความสะดวก)
Facilities/Physical Plant (สิ่งอำนวยความสะดวก) โครงสร้างพื้นฐานใน IT Infrastructure ที่สนับสนุนการทำงานของระบบไอทีทั้งหมด โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้
- ระบบไฟฟ้า (Power System) พร้อมระบบสำรองไฟ (UPS) และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) เพื่อการจ่ายไฟฟ้าและป้องกันปัญหาการหยุดชะงักของบริการเมื่อไฟดับหรือไฟตก
- ระบบปรับอากาศ (Cooling System) ช่วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม ป้องกันอุปกรณ์ร้อนเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ลดลง
- ระบบดับเพลิง (Fire Suppression System) ช่วยป้องกันและระงับเหตุเพลิงไหม้ภายในศูนย์ข้อมูล โดยมักใช้ก๊าซเฉื่อยแทนน้ำ เพื่อไม่ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย
- การจัดการพื้นที่ (Space Management) ทั้งการวางผังพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ การเดินสายไฟอย่างเป็นระเบียบ และการจัดโซนสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อการดูแลและขยายระบบที่ง่ายขึ้น
7. People and Processes (บุคลากรและกระบวนการ)
People and Processes (บุคลากรและกระบวนการ) หัวใจสำคัญที่ช่วยให้ IT Infrastructure ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการบริหารจัดการและบุคลากร คือขั้นตอนที่ช่วยดึงศักยภาพของระบบได้อย่างเต็มที่
- ทีม IT ที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น การดูแลเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ ความปลอดภัยไซเบอร์ และระบบคลาวด์ เพื่อดูแล ติดตั้ง และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กระบวนการจัดการและบำรุงรักษา รวมถึงการตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ การสำรองข้อมูล การอัปเดตซอฟต์แวร์ และการบริหารจัดการเหตุการณ์
- นโยบายและมาตรฐานการทำงาน เช่น นโยบายความปลอดภัยของข้อมูล (IT Security Policy) หรือมาตรฐานการบริหารระบบ
- การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ ส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ด้านเทคโนโลยี ผ่านการอบรม สัมมนา หรือการรับใบรับรอง เพื่อยกระดับศักยภาพและรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคต
5 ขั้นตอนการพัฒนา IT Infrastructure ที่มีประสิทธิภาพ
- การวิเคราะห์และวางแผน (Planning & Assessment) ประเมินสภาพโครงสร้างไอทีปัจจุบัน กำหนดความต้องการทางธุรกิจและเป้าหมาย พร้อมวางงบประมาณ ทรัพยากร และตัวชี้วัดความสำเร็จ
- การออกแบบโครงสร้าง (Design) ออกแบบระบบเครือข่าย และมาตรการความปลอดภัย ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน พร้อมเตรียมแผนสำรองและการกู้คืนระบบเมื่อมีปัญหา
- การจัดหาและติดตั้ง (Implementation) ระบบตามแบบที่วางไว้ พร้อมทดสอบการทำงานจริง เพื่อให้มั่นใจในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความพร้อมของระบบ
- การจัดการและบำรุงรักษา (Management & Maintenance) ติดตาม แก้ไขปัญหา ปรับปรุงซอฟต์แวร์ และสำรองข้อมูลเป็นประจำ
- การปรับปรุงและพัฒนา (Optimization & Evolution) ประเมินผลการใช้งาน ระบุจุดที่ควรปรับปรุง และนำเทคโนโลยีใหม่มาประยุกต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการเติบโตในระยะยาว

วางรากฐานธุรกิจให้มั่นคงและพร้อมต่อยอดในอนาคต ติดต่อเรา
แนวทางการเลือก IT Infrastructure ที่เหมาะสมกับองค์กร
การเลือก IT Infrastructure ที่เหมาะสม องค์กรควรพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน เพื่อการลงทุนที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ธุรกิจ และรองรับการเติบโตในอนาคตมากที่สุด โดยมีแนวทางหลักดังนี้
- ประเมินขนาดและลักษณะธุรกิจ วิเคราะห์ประเภทขององค์กร ปริมาณงาน และระบบที่ใช้งาน
- พิจารณางบประมาณที่มี พร้อมกำหนดงบลงทุนและค่าใช้จ่ายระยะยาว
- วิเคราะห์ความต้องการด้านความปลอดภัย ประเมินระดับความเสี่ยงและข้อมูลที่ต้องปกป้อง
- ประเมินความสามารถในการขยายระบบ เพื่อรองรับการเติบโตโดยไม่ต้องลงทุนซ้ำซ้อน
- พิจารณาทรัพยากรบุคลากร และตรวจสอบความพร้อมของทีม IT
- ศึกษา เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของ IT Infrastructure แต่ละประเภท
- ประเมินผู้ให้บริการและ Partner ที่น่าเชื่อถือและมีโซลูชันเหมาะสมกับองค์กร
Cloud Infrastructure เหมาะกับธุรกิจประเภทใดบ้าง?
- ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ต้องการระบบไอทีพร้อมใช้โดยไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์เอง ช่วยลดค่าใช้จ่ายเริ่มต้นและสามารถขยายระบบได้เมื่อธุรกิจเติบโต
- บริษัท Startup ที่ต้องการปรับขนาดระบบได้ทีตามจำนวนผู้ใช้งาน
- ธุรกิจ E-Commerce หรือตลาดออนไลน์ที่มีปริมาณผู้ใช้งานผันผวนตามช่วงเวลาต่าง ๆ
- องค์กรที่มีหลายสาขา หรือทำงานระยะไกล ซึ่งต้องเข้าถึงข้อมูลและระบบร่วมกันจากหลายพื้นที่
- ธุรกิจที่ต้องการนวัตกรรม เพื่อใช้งานข้อมูลอย่างเป็นประโยชน์ เช่น Big Data, แอป AI หรือ Machine Learning
ยกระดับ IT Infrastructure ในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพกับ Bhatara Progress
การมี IT Infrastructure ที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ คือรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล เพราะการลงทุนใน IT Infrastructure ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร
Bhatara Progress ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและพัฒนาโซลูชันด้าน IT Infrastructure เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งด้าน Software , Server และ Network ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้ธุรกิจพร้อมเติบโตในยุคดิจิทัลอย่างมั่นคง
คำถามที่พบบ่อย
IT Infrastructure แตกต่างจาก IT Architecture อย่างไร?
IT Infrastructure คือระบบที่องค์กรใช้งานจริง ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เครือข่าย และบริการต่าง ๆ ส่วน IT Architecture คือแนวทางการออกแบบหรือวางแผนให้โครงสร้างพื้นฐานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้เวลานานแค่ไหนในการติดตั้ง IT Infrastructure?
ระยะเวลาการติดตั้ง IT Infrastructure ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของระบบ โดยองค์กรขนาดเล็กอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ส่วนองค์กรขนาดใหญ่อาจใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผน ติดตั้ง และทดสอบก่อนใช้งานจริง
การสร้าง IT Infrastructure มีต้นทุนเฉลี่ยเท่าไร?
ต้นทุนการสร้าง IT Infrastructure แตกต่างตามรูปแบบการใช้งาน เช่น On-Premise ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์และบุคลากรดูแลมากกว่า ส่วน Cloud Infrastructure มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นต่ำกว่า องค์กรจึงควรเลือกโซลูชันที่เหมาะกับเป้าหมายและงบประมาณที่มี
ติดต่อเราได้ที่ Contact Us
หรือสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง
โทร: 02 732 2090
Email: marketing@bhatarapro.com
LINE: @bhataraprogress
แหล่งอ้างอิง
Scale Computing.. (16 กรกฎาคม 2567). IT Infrastructure Components and IT Infrastructure Management. https://www.scalecomputing.com/resources/it-infrastructure-components
Mesh Flinders & Ian Smalley. (ม.ป.ป.). What is IT infrastructure?. IBM. https://www.ibm.com/think/topics/infrastructure
Atlassian. (ม.ป.ป.). Understanding IT infrastructure: What is it and why is it important?. https://www.atlassian.com/itsm/it-operations-management/it-infrastructure
