
“ภาพเศรษฐกิจยังขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของโลกไม่น้อย ทำให้ธุรกิจแบงก์ยังคงมีความท้าทาย ซึ่งเราคงต้องปรับตัวตลอดเวลา โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้สอดคล้องกับนโยบายของโลก”
“หัวใจสำคัญของความสำเร็จคือการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของเทคโนโลยี เป็นพลังขับเคลื่อนกระแสหลักในขณะนี้ การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นปัจจัยกำหนดทิศทางของการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์ในปัจจุบัน ทำให้องค์กรต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน” คุณชาติศิริ โสภณพาณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ
ไม่ใช่แค่ธนาคารกรุงเทพ แต่ทุกธนาคาร ไม่ใช่แค่ธุรกิจการเงิน แต่เกือบทุกธุรกิจต้องพิจารณาและดำเนินการให้มี AI มาช่วย ให้องค์กรได้ใช้ AI-powered ในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
เจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร ผู้จัดการ ทีมงาน ต่างรู้จัก AI กันทั่วถ้วน มีคนจำนวนมากเริ่มใช้ AI free ตระหนักรู้ถึงศักยภาพของ AI ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่องค์กรไม่ต้องลงทุนใดๆ อันเป็นที่มาว่าองค์กรจะต้องบริหารจัดการอย่างไรเพื่อให้ AI เป็นตัวเร่งสมรรถนะของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมีทางเลือกหลักๆ 2 เส้นทาง หนึ่งนั้นคือ การสร้าง AI ขององค์กร ที่ลงทุน subscription LLM และการใช้ AI ที่มาพร้อมกับ applications ทั้ง 2 ทางเลือกมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
Option 1: การสร้าง AI ขององค์กร ก็จะได้ AI เพื่อตอบโจทย์องค์กรตรงๆ และป้องกันข้อมูลเข้าสู่สาธารณะได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้นทุน และความยากในการหาบุคลากรยังสูงอยู่ และยังต้องดูแลพัฒนาต่อเนื่องด้วยทีมงานเอง สถาบัน MIT พบว่ามีเพียง 33% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ
Option 2: การใช้ AI ที่มาพร้อมกับ applications จุดดี คือ เป็นเสมือนการเปิดทางให้บริษัทใช้ AI-power ที่ลงทุนน้อย ใช้งานและเห็นผลได้ทันที user-friendly ช่วยทีมงานปรับพฤติกรรมการทำงานได้รวดเร็ว ลดเวลาแต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริง
จากรายงานของ MIT ที่ได้สรุปว่า “กำลังเกิด Shadow AI economy การใช้ AI ของพนักงานที่องค์กรไม่พูดถึง” 95% ของโครงการ AI (สร้าง AI ขององค์กรเอง) ไม่สร้างผลลัพธ์จริงจัง ไม่ทำให้ทีมงานรู้สึกง่ายขึ้น แต่กลับได้ระบบที่ซับซ้อนขึ้น การเลือกจะลงทุนเองจึงต้องคิดให้รอบคอบถึงความจำเป็น เงินลงทุน และการพัฒนาในอนาคต
Applications ที่มาพร้อม AI เช่น
· Security
o Endpoint protection – EDR (Endpoint Detect & Response), XDR (Extended Detect & Response) เกือบทุกแบรนด์ทั้ง ESET, Kaspersky, TrendMicro, Cloud strike, Symantec, Microsoft Defender, etc. ก็มีพร้อมความสามารถของ AI ในการตรวจจับ วิเคราะห์ภัยร้ายต่างๆ การแจ้งเตือนที่รวดเร็วขึ้น บางค่ายก็จะมี AI ที่ทำได้ถึงระดับที่ปิดการใช้งาน user ต้นเหตุ Automated response
o Network security – Cisco, Aruba, TP Link, Ruijie, etc. AI จะช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของแขกผู้มีความซับซ้อน เช่น phishing ตัวฉรรจ์ Deepfake อย่าง real time พร้อมทั้งคาดการณ์ความเสี่ยงล่วงหน้า ช่วยธุรกิจให้รอดพ้นจากภัยร้ายไซเบอร์
o Firewall – Fortigate (Fortinet), Palo Alto, Sophos, etc. Firewall ทุกค่ายต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ทันกับฤทธิ์เดชของ cyber threat จึงต้องมี AI เข้ามาช่วยในการตรวจจับภัยคุกคาม วิเคราะห์ ดำเนินการได้ทันที เรียนรู้และป้องกันอาชญกรรมไซเบอร์ รวมถึงการลำดับความสำคัญในการจัดการ
· Applications ที่ช่วยในการทำงานเกือบทุกแบรนด์มาพร้อมกับศักยภาพของ AI เช่น
o Modern work – Microsoft 365, Microsoft 365 Copilot, Google Workspace + Duet
o ERP – SAP, Oracle NetSuite, Infor, SAGE, Microsoft Dynamics 365 Supply Chain (Finance & Operations), Microsoft Dynamics 365 Business Central (BC), Odoo
o CRM – Microsoft Dynamics 365 Sales, Microsoft Dynamics 365 Customer Services, Salesforce
o HR – Deel, HappyWork, Humansoft, Microsoft Dynamics 365 Human Resources,
น่าจะถึงเวลาที่ผู้บริหารต้องตัดสินใจเลือกขี่พลังของ AI สร้างการเติบโต และ ศักยภาพในการแข่งขัน หรือไม่ ?