ประเภทและความสามารถของ AI และการใช้ AI ในธุรกิจ
ประเภทของ AI
AI มีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มีความสามารถแตกต่างกัน จึงต้องเลือกใช้ AI ให้เหมาะสมกับประเภทของงานที่ต้องการให้ AI ช่วย AI มี 3 รูปแบบพื้นฐาน คือ
- Narrow AI – AI เฉพาะเจาะจงกับงานนั้นๆ เช่น จดจำใบหน้าคน AI แปลภาษา
- General AI – AI ที่เรียนรู้พฤติกรรม สภาพแวดล้อม เนื้อหาข้อมูลต่างๆ ทั้งโลก จึงเป็น AI ที่ช่วยสร้างสรรค์งาน คิดวิเคราะห์ ตั้งเป้า ปฏิบัติ และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์
- Superintelligent AI – AI ที่เก่งเกินมนุษย์
ความสามารถของ AI
บริษัทนักสร้าง AI ต่อยอดความสามารถของ AI สร้างสรรค์และเติมความสามารถให้ AI อย่างต่อเนื่อง ทั้งการสร้างเนื้อหา วิดีโอ เพลง การวิเคราะห์ การ coding & programming การสร้างภาพเสมือนที่ทำให้เราไม่แน่ใจว่าอะไรจริง อะไรคือสิ่งที่ถูกสร้างโดย AI ผู้คนอาจจะกลัว AI จะมาแทนที่งานของตัวเอง แต่ในที่สุดผู้คนมหาศาลต้อนรับ AI เข้าสู่ชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็ว ด้วยความต้องการใช้ศักยภาพของ AI
จุดเริ่มต้นที่ทำให้คนรู้จักและใช้ AI กันอย่างแพร่หลาย คือ การใช้งาน Generative AI เช่น ChatGPT, Gemini, Claude ที่ใช้การ prompt เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบทุกสิ่งทุกอย่าง สรุปเนื้อหาที่ยุ่งยากจากหนังสือเล่มหนา ทำแผนท่องเที่ยว แต่งกลอนเกี่ยวกับธรรมชาติ หัวข้อสื่อสารสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ แต่งจดหมายแนะนำตัว และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยความสะดวกในการใช้งาน และได้ข้อมูลที่กระชับครบถ้วนในทันที หลายคนจึงแทบจะเลิกใช้ GG search แล้วหันมา prompt จนเกิดตำแหน่งงานใหม่ เช่น prompt engineer
AI เก่งขึ้นเร็วกว่าการคาดการณ์ เร็วกว่าแผนงานที่เคยประกาศว่าอีก 5 ปี AI จะเก่งกว่าคน แต่ Sam Altman เพิ่งจะให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เกินปี 2026 AI จะเก่งกว่าเขาซึ่งเป็นผู้สร้าง AI เก่งเร็วกว่าปานสายฟ้าฟาดนี้ เป็นเพราะขีดความสามารถของ QPU และผู้ใช้จำนวนมหาศาลที่มีสถิติการใช้งานอันน่าตกตะลึง เช่น ในปี 2524 มีคนใช้ ChatGPT 160 ล้านคนต่อวัน ปี 2025 เดือนกุมภาพันธ์ 400 ล้านคน เดือนเมษายน 800 ล้านคน ส่วน Gemini ปี 2024 มีผู้ใช้ 10.9 ล้านครั้งต่อวัน ในเดือนมีนาคม 2025 มีผู้เข้าใช้งาน 350 ล้านคน มียอดผู้ใช้งานเติบโตต่อเนื่อง
วันนี้เราจึงได้ใช้ AI ในการทำงานเพิ่มขึ้นอีก ผ่าน AI 2 รูปแบบหลัก AI Agent และ Agentic AI มองเผินๆ นึกว่าเป็นคำเดียวกัน แค่สลับคำขยาย แต่จริงๆ แล้วต่างกัน ด้วยขีดความสามารถ และการเอาไปใช้งาน ….. ก่อนจะอ่านบรรทัดต่อไป ลองเดาว่า ตัวไหนน่าจะเก่งกว่า ……
AI Agent และ Agentic AI คิด และตัดสินใจดำเนินการโดยอิสระ ด้วยกระบวนการเรียนรู้ของเขาเอง AI Agent อาจจะต้องให้มนุษย์ช่วยบ้างในกรณีที่เหตุการณ์นั้นๆ เหนือการประเมิน และซับซ้อนมากๆ แต่ Agentic AI ไม่พึ่งมนุษย์เลยในทุกๆ สถานการณ์ ไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์ ทำงานเชิงรุก รุกไปข้างหน้าทำงานให้สำเร็จเท่านั้น ที่สุดของที่สุด คือ ถ้าต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงจากข้อมูลเชิงลึก ที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น คาดไม่ถึง AI Agentic จะเรียนรู้และสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงให้ได้ AI ทั้งคู่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการและขั้นตอนการทำงานได้ด้วยตัว AI เอง ที่สำคัญพัฒนาตัวเองตลอดเวลาโดยเรียนรู้จากข้อมูล ประสบการณ์ พฤติกรรมต่างๆ
ประเภทของ AI ความหมาย และ ประโยชน์ในการใช้งาน
Aspect | AI Agent | Agentic AI |
Definition | AI จะดำเนเนการ และตัดสินใจด้วยตัวเอง ตามการรับรู้ในสภาวะแวดล้อม เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ขั้นตอน การตอบสนอง และข้อมูล เงื่อนไขต่างๆ ทั้งหมด | Agentic AI จะคิด วางเป้าหมายและปฏิบัติการเชิงรุกอย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีคำสั่งหรือรูปแบบที่กำหนด |
Utilization | เป็นผู้ช่วยที่เก่งด้านงานวิชาการ จัดระบบการทำงาน งานบริการ งานสร้างสรรค์ จึงควรเลือกไปใช้งานสำหรับแผนก customer service, data analysis, business analysis, software development, IT automation, หรืองานประเภท business process automation | ใช้ประโยชน์ด้านการวิเคราะห์และหาทางแก้ไขปัญหา เรียนรู้จากประสบการณ์ ข้อมูล เพื่อปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานในส่วนการบริหาร การบริหารเชิงกลยุทธ์ ผู้บริหารและ แผนก BD จะได้รับประโยชน์เต็มๆ |
Functionality | AI จะทำงานภายใต้กฎและค่าที่ระบุไว้ แต่จะเพิ่มการปฏิบัติการใหม่ด้วย AI เอง ตามเนื้อหา ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติม | สร้างสรรค์ ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องตามการทำงาน และเนื้อหาที่เกิดขึ้นจริงอย่างอัตโนมัติและดำเนินการอย่างอิสระ |
Autonomy | AI Agent มีความเก่งกาจสามารถจัดการงานได้ด้วยตัวเอง แต่ในงานยากๆ และงานที่คาดไม่ถึง ยังคงต้องให้มนุษย์ช่วย | เก่งกาจสามารถทั้งคิด ทำ ปรับปรุง ด้วยตัว Agentic AI เอง โดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ช่วย |
Key Characteristic | Autonomy: จัดการทุกอย่างอย่างอิสระ ตัดสินใจในการดำเนินการโดยไม่ต้องให้มนุษย์ช่วย Reasoning and Planning: สามารถวิเคราะห์ข้อมูล พัฒนากลยุทธ์ และ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงาน ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป Tool Usage: สามารถเชื่อมต่อ ตอบสนองกับ tools และ ระบบอื่นๆ เพื่อผลสำเร็จของงาน | Autonomy: เก่งกาจสามารถเหนือกว่า AI Agents ไม่ว่างานยากซับซ้อน หรือเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น Agentic AI ก็สามารถคิด วิเคราะห์ หาวิธีการจัดการ และจัดการได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์ช่วย Proactivity: ตั้งเป้าหมายเชิงรุก ทำงานเชิงรุก Decision-making: สามารถตัดสินใจในเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน Learning: สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ และปรับพฤติกรรมได้ |
ขั้นตอนการเริ่มต้นใช้ AI
การใช้ AI การสร้าง AI เพื่อธุรกิจขององค์กรโดยเฉพาะนั้น เป็นเรื่องที่ยังต้องปรึกษารับฟังความต้องการ วิเคราะห์ และกำหนด solution โดยแบ่งเป็นระยะเริ่มต้นสำหรับบางแผนก สำหรับบางบุคคล ระยะที่สองส่วนขยายการใช้งาน optimize ให้บางแผนกได้ใช้งานเพิ่มเติม และระยะการสร้างอาณาจักร AI ขององค์กร
ความเข้าใจและเป้าหมายในเบื้องต้น จะทำให้เราเลือกเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมาย องค์กรขยับขยายงานได้โดยใช้ศักยภาพของ AI ควบคู่กับความสามารถของบุคคลากร ซึ่งแน่นนอน AI ไม่ได้ทดแทนทุกสิ่งทุกอย่างได้ ความสำคัญของทีมงานยังมีอยู่มาก AI Shines, Humanity Rises. ปรึกษา บริษัท ภัทร โปรเกรส จำกัด ได้ www.bhatarapro.com, marketing@bhatarapro.com