Magento คืออะไร
ทำความรู้จัก Magento คืออะไร Magento ข้อดี ข้อเสีย อย่างไร เปรียบเทียบ woocommerce vs magento
Meta: ทำความรู้จักกับ Magento คืออะไร? เหมาะกับธุรกิจแบบไหน? ข้อดี ข้อเสีย เปรียบเทียบกับ woocommerce พร้อมส่อง Magento partner ในประเทศไทย ศึกษาได้ที่นี่!
ในปัจจุบันการทำธุรกิจผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ ถือว่าได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ มักจะขึ้นอยู่กับการซื้อขายสินค้าบนตลาดออนไลน์ เว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งอำนวยความสะดวกได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้า การชำระเงิน การจัดส่งสินค้าจนถึงมือ ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมไปถึงกระบวนการอื่น ๆ หลังบ้านที่เกี่ยวข้องในส่วนของเจ้าของธุรกิจ ลองนึกภาพดูว่า ถ้าไม่มีเครื่องมือในการจัดการที่ดี กระบวนการอันยุ่งยากซับซ้อนเหล่านี้คงจะไม่เป็นระบบระเบียบอย่างแน่แท้
ในบทความนี้เราจะชวนคุณทำความรู้จักกับ Magento คืออะไร? เหมาะกับธุรกิจแบบไหน? มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร? เปรียบเทียบ woocommerce vs magento และไปดูกันว่า magento partner ในประเทศไทยมีใครบ้าง? ศึกษาได้เลยที่นี่!
Magento คือ อะไร?
Magento คือ แพลตฟอร์มการจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์แบบ Content Management System (CMS) ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจ e-commerce ที่มีการรวมเอาฟังชั่นการใช้งานต่าง ๆ มารวมไว้ด้วยกันเพื่ออำนวยความสะดวกแบบครบวงจร เป็นระบบหลังบ้านสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหมวดหมู่สินค้า การอัปเดตสินค้าคงคลัง ระบบชำระเงิน การจัดส่งสินค้า โปรโมชั่นทางการตลาด ฯลฯ โดยใช้ภาษา PHP ซึ่งเป็น Open Source Software เพื่อให้ผู้ใช้พัฒนาเว็บไซต์เองได้ แต่ Magento ไม่ใช่โปรแกรมสำเร็จรูป ดังนั้นผู้ใช้ต้องเขียนโค้ดขึ้นมาเอง แต่ก็สามารถออกแบบเว็บไซต์ได้แบบไม่มีขีดข้อจำกัด
Magento ข้อดี ข้อเสีย อย่างไร?
Magento ข้อดี |
Magento ข้อเสีย |
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โปรแกรมสำเร็จรูปที่สามารถใช้งานได้โดยทันที แต่ Magento เป็น Open Source Software ที่สามารถเขียนโค้ดด้วยภาษาง่าย ๆ อย่าง PHP เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ได้เองแบบไม่มีขีดข้อจำกัด พร้อมปลั๊กอินฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้ดี |
ผู้ใช้จะต้องมีความรู้ทางเทคนิคในการเขียนโค้ดเพื่อเริ่มต้นใช้งาน หากไม่มีความรู้ทางเทคนิคอาจจะต้องใช้ต้นทุนในการพัฒนาโปรแกรม ซึ่งอาจมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง |
มีอินเทอร์เฟซที่สวยงาม ดีไซน์ทันสมัย มีความยืดหยุ่นสูง |
อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการโฮสต์แพลตฟอร์ม หรือใช้เครื่องมือทางการตลาด |
มีระบบการจัดการหลังบ้าน การจัดการสินค้าครบวงจร สามารถใช้งานได้กับผู้ค้าปลีก รวมไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ |
Content Management System (CMS) มีความซับซ้อน ต้องอาศับผู้เชี่ยวชาญในการ setup |
รองรับการใช้งานในหลาย ๆ ภาษา รวมทั้งช่องทางการขายอื่น ๆ |
ต้องจัดการเกตเวย์การชำระเงินเอง |
มีระบบแบ่งประเภทสินค้า (Configurable Product) และการค้นหาสินค้าแบบละเอียด (Advance Search) |
|
รองรับการทำ SEO |
|
Magento เหมาะกับธุรกิจแบบไหน?
Magento เหมาะสำหรับธุรกิจ e-commerce ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก บริษัทขนาดใหญ่ หรือตัวแทนขายสินค้า รวมทั้งการทำ Affiliate ด้วย เพราะ Magento มีฟังก์ชั่นที่ยืดหยุ่น สามารถเปลี่ยนโฉมให้เว็บไซต์กลายเป็น Shopping Mall Online ได้อย่างง่าย ๆ เช่น เปิดให้ผู้ค้ารายอื่นมาวางขายสินค้าบนหน้าร้านของเรา การจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าของตัวแทนจำหน่ายแบบไม่ต้องสต๊อกสินค้า ระบบกระจายสินค้า เป็นต้น
เปรียบเทียบ woocommerce vs magento
woocommerce |
magento |
เป็นปลั๊กอินของ wordpress ที่มีราคาถูกกว่า Magento หลายเท่าตัว ใช้งานได้ฟรีทั้งหมด |
สามารถดาวน์โหลด และใช้งานได้ฟรี เป็นบางส่วน หากต้องการใช้ฟังก์ชั่นพรีเมี่ยมจะต้องเสียเงินเพิ่ม |
คุณจะต้องทำการโฮสต์เว็บของคุณเอง |
คุณจะต้องทำการโฮสต์เว็บของคุณเอง แต่ถ้าเป็น ฟังก์ชั่นพรีเมี่ยมจะมีการโฮสต์ให้ |
เหมาะสำหรับ local business ธุรกิจขนาดเล็ก จำนวนสินค้าไม่มาก และมีโครงสร้างธุรกิจไม่ซับซ้อน |
เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด ทั้งขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ รองรับสินค้าจำนวนมาก และรองรับโมเดลธุรกิจที่ซับซ้อนมากกว่า Woocommerce |
มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน |
มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อปิดช่องโหว่ทางเทคนิคที่อาจเกิดขึ้นได้ |
ใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคเกี่ยวกับการเขียนโค้ด |
ไม่ใช่โปรแกรมสำเร็จรูปจะต้องมีการเขียนโค้ด เพื่อพัฒนาเว็บไซต์เอง อาจต้องมีความรู้พื้นฐานในการพัฒนาเว็บเล็กน้อย |
ตัวอย่างเว็บ Magento
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ใช้ Magento - มีหลาย Top brand ทั่วโลกที่เลือกใช้เว็บไซต์ Magento เช่น
- https://www.hellyhansen.com/ Top brand แฟชั่นจากประเทศนอร์เวย์
- https://www.sigmabeauty.com/ แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำจากอังกฤษ
- https://accessories.ford.com/ Ford Motor Company อุตสาหกรรมยานยนต์จากประเทษอเมริกา
Magento partner ในประเทศไทย
Magento partner ในประเทศไทย คือ บริษัท ภัทร โปรเกรส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จะช่วยให้การขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ให้เป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด ด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานระดับสากล GDPR และ PDPA เพื่อให้ธุรกิจได้ขยายตัวและเติบโตตามสถานการณ์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด การันตีประสบการณ์ด้วยรางวัลที่ได้รับมานับ 10 รายการ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองสำหรับการขยายธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ยุคใหม่
Adobe Commerce และ Magento
เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา Adobe ได้ทำการเข้าซื้อกิจการ Magento และเปลี่ยนชื่อเป็น Adobe Commerce เพื่อนำเสนอแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหา การทำการตลาด การโฆษณา การวิเคราะห์และการขายสินค้า B2B และ B2C เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อสินค้า และเพื่อให้เจ้าของธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้งานได้อย่างเป็นระบบระเบียบ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน Magento จะไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เนื่องจากว่ายังมีข้อจำกัดในเรื่องของการเขียนโค้ด แต่ก็ถูกนำไปใช้กับเว็บไซต์ชื่อดังทั่วโลกมากกว่า 100,00 เว็บไซต์ และแน่นอนว่า เร็ว ๆ นี้ พ่อค้าแม่ค้าในประเทศไทยคงหันมาใช้ Magento กันมากขึ้น เพราะมีฟังก์ชันที่ครอบคลุม และมีหน้าอินเทอร์เฟซที่สวยงาม ทันสมัยนั่นเอง พร้อมทั้งยังมีตัวแทนที่สามารถ implement เพื่อทุกธุรกิจอย่าง บริษัท ภัทร โปรเกรส จำกัด ที่เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องการ setup ระบบต่างๆ พร้อมทั้งดูแลตลอดการใช้งาน